ในยุคนี้กระแสเหรียญบิทคอยน์กำลังมาแรง ส่งผลให้คนสนใจสกุลเงินดิจิตอล (คริปโตเคอร์เรนซี่) กันมากขึ้น การจะได้เหรียญบิทคอยน์มาครอบครอง หลายคนอาจเลือกวิธีการเทรดในเว็บที่เปิดให้ซื้อขายอย่างเช่น Bitkub หรือ Binance แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการขุดด้วยคอมพิวเตอร์ โดยเราจะใช้วิธีขุดเป็นเหรียญ Etheruem (ETH) แล้วค่อยไปแลกมาเป็นเหรียญ Bitcoin (BTC) เอาทีหลังก็ได้ ในบล็อกนี้จะมาแนะนำการประกอบเครื่องขุดเหรียญคริปโตด้วยการ์ดจอคอมพิวเตอร์ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับประกอบเครื่องขุดเหรียญคริปโตด้วยการ์ดจอคอมพิวเตอร์
- การ์ดจอ (GPU) เลือกตามกำลังทรัพย์ที่มี แต่เน้นว่าต้องมีแรมขนาด 6GB ขึ้นไป เพื่อจะใช้ขุด Etheruem ได้ และควรเลือกซื้อการ์ดมือหนึ่งที่มีประกันไว้ก่อน เวลาที่การ์ดจอมีพังเราก็ยังส่งเคลมประกันได้
- เมนบอร์ด (Mainboard) เนื่องจากเราต้องนำมาต่อพ่วงกับการ์ดจอจำนวนหลายใบ ดังนั้นควรเลือกเมนบอร์ดรุ่นที่มีรหัส BTC เอาไว้ก่อน เพราะเขาออกแบบมาสำหรับใช้งานขุดเหมืองคริปโตโดยเฉพาะ ซึ่งจะสามารถใส่การ์ดจอได้ตั้งแต่ 6 ใบขึ้นไป
- CPU ใช้อะไรก็ได้ที่เมนบอร์ดรองรับ เน้นราคาถูกเอาไว้ก่อน
- Ram ใช้อะไรก็ได้ที่เมนบอร์ดรองรับ และเนื่องจากราคาไม่ต่างกันมาก ควรเลือก 8GB ไว้ก่อน
- เพาเวอร์ซัพพลาย (PSU) ที่นิยมใช้กันจะต้องเป็นรุ่นที่รับรองมาตรฐานระดับ 80 PLUS และมีจำนวนวัตต์เพียงพอที่จะจ่ายไฟเลี้ยงระบบและการ์ดจอทุกใบได้ ส่วนมากจะต้องใช้ PSU 2 ตัวมาต่อพ่วงกัน มีทั้งแบบ PSU ATX 2 พ่วงกัน 2 ตัว หรือ PSU ATX พ่วงกับ PSU Server ก็ได้ แล้วแต่ถนัด
- Riser Card นำมาใช้ต่อพ่วงการ์ดจอเข้ากับเมนบอร์ด เพราะช่องเสียบการ์ดจอส่วนมากเป็นแบบ PCI Express x1 ซึ่งไม่สามารถเสียบการ์ดจอลงไปตรงๆ ได้ จึงต้องต่อผ่าน Riser Card ที่นิยมปัจจุบันนี้จะเป็นรุ่น Riser Card VER009S PCI-E 009S PCI Express 1X To 16X
- โครงริก ใช้สำหรับยึดการ์ดจอ นิยมใช้วัสดุที่ไม่ลามไฟ ที่นิยมใช้จะเป็นพวกอลูมิเนียม เหล็ก และพลาสวูด ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุและจำนวนการ์ดจอที่รองรับ มีตั้งแต่ 6 ใบ 8 ใบ หรือ 12 ใบ เป็นต้น

ตัวอย่างการประกอบเครื่องขุดเหรียญคริปโต แบบใช้การ์ดจอ 6 ใบ เป็นการ์ดจอค่ายเขียว Nvidia Geforce รุ่น GTX1660 2 ใบ และ RTX2060 4 ใบ ใช้ไรเซอร์การ์ดต่อพ่วงการ์ดจอเข้าเมนบอร์ดผ่านช่อง PCE Express ซึ่งเมนบอร์ดรุ่นนี้ CF-H81A-BTC v20 มีช่อง PCIe 6 ช่องพอดี

CF-H81A-BTC v20 เป็นเมนบอร์ดขุดเหรียญคริปโตรุ่นยอดนิยมเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันมีรุ่นอื่นที่ดีกว่า รองรับการ์ดจอได้มากกว่ามาแทนแล้ว สาเหตุที่เลือกเมนบอร์ดรุ่นนี้เพราะมี CPU ของเดิมที่เป็น Socket LGA1150 เหลืออยู่ ซึ่งเป็นรุ่นที่เก่ามาก หากต้องซื้อใหม่ทั้งหมดควรเลือกเมนบอร์ดที่รองรับ CPU รุ่นใหม่จะดีกว่า

Riser Card VER009S PCI-E 009S PCI Express 1X To 16X จำนวน 6 ตัว พร้อมหัวแปลง PCI-E USB3.0

เสียบ Riser Card เข้ากับการ์ดจอ แล้วยึดการ์ดจอเข้ากับโครงริกโดยขันสกรูให้แน่น ตามรูปข้างบน

เสียบหัวแปลง Riser Card เข้าช่อง PCI Express บนเมนบอร์ด แล้วต่อสาย USB3.0 ไปเสียบเข้า Riser Card ที่อยู่กับการ์ดจอ

เพาเวอร์ซัพพลาย (PSU) ที่นิยมใช้กันจะต้องเป็นรุ่นที่รับรองมาตรฐานระดับ 80 PLUS และมีจำนวนวัตต์เพียงพอที่จะจ่ายไฟเลี้ยงระบบและการ์ดจอทุกใบได้ ส่วนมากจะต้องใช้ PSU 2 ตัวมาต่อพ่วงกัน ในที่นี้จะใช้ PSU ATX จ่ายไฟเพื่อเลี้ยงเมนบอร์ด ส่วนการ์ดจอและไรเซอร์การ์ด จะใช้ไฟจาก PSU Server ซึ่งมีสาย PCIe 6+2 มาให้ 6 เส้นพอดี ในเครื่องนี้จะเป็นการใช้ PSU 2 ตัว ต่อแยกกันอิสระ ไม่ต้องพ่วงกัน

PSU Server ยี่ห้อ LITEON ขนาด 1100 Watt มาพร้อมกับ Breakout Board Adapter 12 ช่อง สำหรับใช้เสียบสายไฟเลี้ยงการ์ดจอและไรเซอร์การ์ด ในเครื่องนี้จะเป็นการใช้ PSU 2 ตัว ต่อแยกกันอิสระ ไม่ต้องพ่วงกัน

Breakout Board Adapter 12 ช่อง มีมิเตอร์บอกแรงดันไฟอยู่บนบอร์ดด้วย

เสียบสายไฟ 6+2 จาก Breakout Board Adapter เข้าการ์ดจอและไรเซอร์การ์ด ให้ครบทุกใบ จากนั้นเสียบสาย Power SW เข้าที่เมนบอร์ด เพื่อใช้สำหรับเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

ต่อสายไฟ AC 220V เข้ากับ PSU ทั้ง 2 ตัว การเปิดเครื่องจะเริ่มจาก PSU Server ก่อน แล้วค่อยต่อเสียบปลั๊ก PSU ATX

เมื่อประกอบตัวเครื่องขุดเหรียญคริปโตเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการติดตั้งโปรแกรม ซึ่งแล้วแต่ว่าถนัดแบบไหน ใช้ได้ทั้ง Windows และ Linux
- Windows 10 สามารถได้ทั้งผ่านโปรแกรม NiceHash หรือขุด Pool โดยตรงก็ได้
- Linux ในที่นี้จะใช้เป็น HiveOS ที่เขาทำมาเพื่อขุดเหมืองโดยเฉพาะ
เครื่องขุดเหรียญคริปโตเครื่องนี้ ติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้ขุดเหรียญ Etheruem (ETH) ได้แรงขุดที่ 178.5 MH/s ได้ค่าตอบแทนวันละ 350 บาท (ยังไม่ได้หักค่าไฟ) โดยคิดที่ 1 ETH = 80,000 บาท
ติดตามผู้เขียนบทความผ่านทางแฟนเพจ Thospaak.com